2008 FAIR PLAY

BBGUnspaceslive.jpg picture by mr_nuclear

สวัสดีครับ
ช่วงนี้กระแส BB gun ในบ้านเรากำลังบูมจริงๆครับ
ไม่ว่าจะเปิดไปทีวีช่องไหน หรือผ่านไปสถานที่ไหนๆ
ก็จะพบกับกิจกรรมการระบายสัญชาตญาณการต่อสู้อย่าง BB gun เป็นประจำ
ร้านขายปืนอัดลมไฟฟ้าและสถานที่เล่น BB gun>
ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างกับดอกเห็ด
ทำให้อดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนสมัยโอกี้ยังเป็นเด็ก
โอกี้เป็นคนชอบอาวุธปืนตั้งแต่ยังเล็ก
จึงมีปืนอัดลมเล่นตั้งแต่สมัยอยู่ประถมแล้ว
ส่วนเพื่อนคนอื่นที่ไม่มีปืนอัดลมเป็นของตัวเอง
ก็ต้องโดนเกณฑ์ถูกเปลี่ยนสายพันธุ์ไปเป็นผู้ถูกล่า
บ้างก็เป็นกวาง บ้างก็เป็นหมูป่า บ้างก็เป็นอีเห็น
ไล่ยิงสนุกสนานกันใหญ่ เปลี่ยนสถานที่เล่นวนไปเรื่อยๆ
ทั้งบ้านตัวเอง บ้านเพื่อน สวนสาธารณะ บางทีก็ตึกร้าง
นึกถึงตอนนั้นแล้ว ช่างภูมิใจในความเลวของตัวเองเสียจริงๆ คึ คึ
พี่ๆล่ะครับ ชอบกิจกรรม BB gun กันบ้างรึเปล่าครับ Now, BB GUN is a famous Thai teenage activity.
The toy gun shop & BB GUN field are growing by leaps and bounds.
When I was young, I like to play toy gun.
Some friends who didn't have toy gun,
they must to be victim as deer or boar.
When I think back I feel proud of my cruelty. 5 5 5
So,how about U ?? Do U like BB GUN game ?



ก่อนจะมาเป็น Fair play

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

BB GUN ย่อมาจาก Bullet Ball Gun หรือที่บางคนเรียกว่า Air Soft Gun
คือปืนอัดลมแต่มีระบบกลไกการทำงานภายในที่ถอดแบบออกมาจากปืนจริงบางส่วน
มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบแก๊ซและไฟฟ้า ลักษณะภายนอกเหมือนกับปืนจริงจนแทบจะแยกไม่ออก
ด้วยเพราะผู้ผลิตพยายามทำมาให้เหมือนปืนจริงมากที่สุด ทั้งขนาด น้ำหนัก สีสัน
บางรุ่นวัสดุที่ใช้ทำจะเป็นโลหะแข็งจึงเหมือนจริงมากเป็นพิเศษ
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักเล่นปืน และผู้ที่ชื่นชอบการเก็บสะสม

ความเป็นมาของกีฬา BB. ในประเทศไทย

ความเป็นมาของกีฬา BB. ในประเทศไทย จากเริ่มต้นถึงปัจจุบัน
ประเทศไทยเริ่มรู้จักปืน
BB. มาประมาณ 15-20 ปีมาแล้วราวๆปี พ.ศ.2529-2534

ก็ตั้งแต่เริ่มมีปืน BB.
กำเนิดขึ้นในญี่ปุ่นไม่นาน

โดยนำเข้ามาจากฮ่องกงพร้อมกับพลาสติกโมเดลจากผู้นำเข้าอิสระในขณะนั้น
แต่ก่อนที่จะมีปืน BB. ที่ใช้กระสุนทรงกลมขนาด 6
มม.

เราชาวไทยได้รู้จักกับโมเดลปืนและปืนแก๊ป
ที่ใช้ลูกกระสุนแบบอื่นมาก่อนแล้ว

จะเป็นปืนลักษณะใดติดตามได้จากบทความต่อไปนี้
โดยผมจะแบ่งออกเป็น 3
ยุคใหญ่ๆให้ท่านผู้อ่านได้ทราบถึงความเป็นมาของวงการปืน
BB.ในประเทศไทยต่อไป


ยุคที่1. ปืนโมเดล
ราวๆปี พ.ศ. 2520
คนไทยเริ่มรู้จักกับโมเดลปืนที่เป็นเหล็กบ้าง

เป็นพลาสติกโมเดลที่จะต้องมาต่อและทำสีเองบ้าง
บางแบบก็สามารถยิงได้ บางแบบเป็นปืนแก๊ปที่มีแต่เสียงและยิงอะไรออกมาไม่ได้
แบบที่ยิงได้จะเป็นระบบอัดลมที่คล้ายกับระบบแอร์ค๊อกกิ้ง
ส่วนลูกกระสุนจะเป็นลูกพลาสติกรูปทรงคล้ายกระโถนขนาด .177 นิ้ว และ 6 มม.
เราจึงเรียกว่าลูกกระโถน
แต่เนื่องจากส่วนใหญ่ปืนแบบนี้เป็นพลาสติก

โมเดลที่จะต้องนำมาต่อและทำสีเอาเอง
และพอทำสีแล้วหากนำไปเล่นบ่อยๆสีก็จะถลอกได้

จึงไม่มีใครนิยมนำออกมาเล่นกันมากนักส่วนใหญ่จะประกอบแล้วแขวนโชว์ไว้ในบ้านมากกว่า
ปืนอัดลมแบบนี้ถูกจำลองมาจากปืนหลากหลายรุ่นและแบบมีทั้ง M-16 UZI AK-47
MP-5 และอีกมากมาย

แม้จะผลิตจากวัสดุที่เป็นพลาสติกที่ไม่แข็งแรงแต่ก็เป็นที่นิยมในหมู่นักต่อโมเดลมากในยุคนั้น
ส่วนห้างร้านที่นำปืนแบบนี้เข้ามาจำหน่าย ที่ใหญ่ๆก็จะมีไทยไดมารู
เซ็นทรัล

และร้านธนันต์ที่เป็นร้านขายชุดพลาสติกจำลอง
ซึ่งบรรดาห้างร้านทั้งหมดนี้ล้วนมีใบอนุญาตนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ถูกต้องด้วยกันทั้งสิ้น
(ตอนนั้นขออนุญาตง่ายมากแต่ต้องต่ออายุปีต่อปี)
ต่อมาไม่นานความนิยมปืนโมเดลแบบนี้ก็สลายไป และนิ่งๆอยู่พักใหญ่

ยุคที่ 2 ปืนBB.
จนมีปืน
BB.
ที่เป็นปืนสั้นอัดลมและปืนอัดแก๊สเข้ามาขาย

ความนิยมปืนอัดลมจึงเริ่มเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้กระแสนิยมสูงกว่าเดิม
คือนอกจากผู้เล่นที่เป็นคนเล่นโมเดลเสียส่วนใหญ่ที่จะเล่นปืนโมเดลด้วย
มาเป็นผู้เล่นที่เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพื้นฐานที่การต่อโมเดลมาก่อน
เนื่องจากปืนแบบใหม่นี้ไม่ต้องประกอบเองและบางแบบก็จะมีวัสดุเป็นเหล็ก
จึงมีความทนทานกว่าปืนโมเดลแบบแรก
อีกทั้งปืน BB.ที่เป็นแก๊สยังสามารถยิงได้ต่อเนื่องในระบบเซมิออโต้
แม้จะยังไม่มีระบบโบว์แบ๊กเหมือนในปัจจุบัน
แต่มันก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ยิงได้มากกว่าปืนอัดลมแบบเก่า
แค่ปืนสั้นอัดแก็ส
ก็เป็นที่นิยมกันอย่างมากอยู่แล้วแต่เมื่อมีปืนสั้นออกมาไม่นาน

ปืนยาวอัดแก๊สเข้ามาให้เห็นกันบ้างในประเทศไทย
แต่เหตุการผิดคาดปืนยาวอัดแก๊สกลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเนื่องจากราคาที่สูงมาก
และระบบปฏิบัติการนั้นยังมีปัญหามากและอายุการใช้งานต่ำ
ซ้ำอะไหล่ก็หายากมากๆในเมืองไทย

และเนื่องจากเป็นปืนที่สามารถยิงแบบอัตโนมัติได้จึงต้องใช้แก๊สในปริมาณมาก
จึงมีความสิ้นเปลืองสูงเป็นเหตุให้ต้องใช้ถังแก๊สขนาดใหญ่อยู่นอกตัวปืน
โดยใช้สายลมต่อเข้ากลับตัวปืนอีกที
ด้วยความยุ่งยากอายุการใช้งานต่ำ

และราคาที่สูงปืนยาวอัดแก๊สจึงไม่ได้รับความนิยมสูงนักในเมืองไทย
ปืนBB.ในยุคนี้ไม่ต้องพูดถึงความแม่นยำ
ที่ไม่ต้องพูดถึงก็คือมันไม่มีเลย
ในระยะ10 เมตรขึ้นไปปืน BB.

ยุคนี้จะไม่สามารถคุมกลุ่มกระสุนได้เลยเพราะมันยังไม่มีฮอบอัพเหมือนปืน
BB.สมัยใหม่

ผู้เล่นก็จะนิยมซื้อปืน BB.มาเก็บไว้เล่นอยู่ในบ้านหรือ
เล่นยิงเป้าธรรมดา

เมื่อปืนถึงอายุการใช่งานและพังไปก็ยังไม่มีใคนซ่อมได้สุดท้ายก็ต้องวางไว้เฉยๆหรือทิ้งไป
เรื่องที่จะมีการเล่นแบบเซอร์ไวเวอร์เกมแบบในปัจจุบันนั้น
ยังไม่มีใครเล่นเพราะหน้ากากและอุปกรณ์ป้องกันยังไม่มี จึงกลัวจะเป็นอันตรายหากจะนำมาเล่นยิงกัน
จนเมื่อ
15 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีปืน BB.ไฟฟ้าของมารุอิ
เข้ามาทำให้กระแสนิยมปืนยาวก็เริ่มสูงขึ้น

เพราะปืนที่ราคาถูกกว่าปืนยาวอัดแก๊ส อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
แม้อะไหล่จะยังหายากอยู่แต่ก็สามารถสั่งร้านที่นำเข้ามาให้เอามาได้
และที่สำคัญความสิ้นเปลืองก็ต่ำกว่าเพราะไม่ต้องใช้แก๊สเพียงแต่ชาร์ตแบ็ตฯให้เต็มก็สามารถยิงได้แล้ว
ความนิยมปืนยาวไฟฟ้าจึงสูงมากจนไม่มีบรรดาผู้นำเข้า
พลาสติกโมเดลอิสระจากฮ่องกงรายใดไม่เคยนำเข้ามาขายเลย
ผู้นำเข้าพลาสติกโมเดลอิสระจากฮ่องกงทุกรายต่างแข่งกันนำปืนไฟฟ้าของมารุอิเข้ามาขาย
จนบางรายเลิกนำเข้าพลาสติกโมเดลและหันมานำเข้าปืน
BB.ไฟฟ้านี้แทน

แต่ปืนยาว
BB.ยุคนี้ก็ยังไม่มีฮ๊อบอัพอยู่ดีความแม่นยำจึงต่ำไปด้วย

แม้จะมีปืน BB.
ไฟฟ้าแล้วการเล่นแบบเซอร์ไวเวอร์เกม
ก็ยังไม่มีอยู่ดีเพราะยังขาดอุปกรณ์ป้องกัน

และไม่มีสนามให้เล่น
แม็กฯโมฯก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในยุคนี้

การเล่นส่วนใหญ่ก็ยังเหมือนเดิมคือเล่นอยู่ในบ้านและสะสม

ยุคที่3. กีฬา BB.
เริ่มจากการเกิดขึ้นของสนามเพนท์บอล ที่ย่านตะวันนาข้างๆเดอะมอล์บางกะปิ
โดยเจ้าของสนามและเพื่อนๆในสมัยนั้นได้เริ่มนำปืน BB.
เข้ามาร่วมเล่นด้วยโดยเป็นการเล่นกันในเวลากลางคืน
เพราะเหตุผลด้านกฏหมายในสมัยนั้น และในยุคแรกๆของสนามก็ยังไม่มีปืนและอุปกรณ์ BB.
ให้ผู้เล่นได้เช่ามีเพียงสนามและอุปกรณ์เพนท์บอลเท่านั้น
และต่อมาเมื่อมีผู้เล่นมากขึ้นทางสนามจึงได้มีปืนและอุปกรณ์ BB.
ให้เช่าร่วมกันกับกีฬาเพนท์บอลไปด้วย สนามที่ว่านี้ก็คือสนามยุทธกีฬา ร.11 ในปัจจุบันนี้เอง
เมื่อมีสนามที่ตะวันนาได้ไม่นานก็เริ่มมีสนามเกิดขึ้นมาใหม่หลายสนามแต่ส่วนมาก
จะเป็นสนามเพนท์บอลซะมากกว่า ต่อมาสนามตะวันนาก็ต้องปิดตัวลงและย้ายไปอยู่ที่ตลาดปฐวิกร
ซึ่งที่นี้เองที่อาจจะนับได้ว่าเป็นจุดเริ่มของวงการ BB. ในไทยเลยก็ว่าได
และผมเองก็ได้เริ่มเล่น BB. จากจุดนี้ และ ถ้านับถึงปัจจุบันก็ 11 ปีแล้วละครับ
ด้วยเหตุที่สนามมีไม่เพียงพอรวมทั้งผู้เล่นก็ยังไม่แพร่หลายนัก
ทำให้ผู้เล่นรวมตัวกระจุกันอยู่ที่ปฐวิกรเสียมากกว่า ในสมัยนั้นผู้เล่นยังน้อยเสียจนสามารถนับตัวผู้เล่นได้
ผู้เล่นทั้งหมดส่วนมากจะรู้จักกัน
และสนามเริ่มมีการประชาสัมพันธ์ ทำให้ BB. เริ่มมีคนรู้จักเพิ่มขึ้น
บรรยากาศในสนามสมัยนั้นบอกได้ว่าสนุกมากครับ และมารยาทเป็นเรื่องสำคัญ มากในสมัยนั้น
ทั้งในสนามและนอกสนาม จะได้ยินแต่คำขอโทษ สนามปฏวิกรเปิดอยู่ที่นั้นได้พักใหญ่ๆ
หลังจากนั้นไม่นานสนามปฏวิกรก็ต้องย้ายอีกครั้งมาที่ แถบย่านรามอินทรา (เรียบทางด่วน)
ในยุคนี้เองที่วงการกีฬา BB. ของไทยได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
คือเริ่มมีการจัดออนทัวร์ออกไปเล่นนอกสถานที่ จากเดิมที่เคยเล่นในสนามกันอย่างเดียว
วงการ BB.ช่วงนี้เติบโตแบบช้าๆค่อยเป็นค่อยไป ปืน BB.
ที่ใช้ก็ยังคงเป็นปืนปืนยี่ห้อ มารุอิเป็นส่วนใหญ่ (95%) จะมียี่ห้ออืนน้อยมาก ยี่ห้อทานากะ มารุเซ็น
และอื่นๆที่ในสมัยนี้ถือว่าปกติ ใครใช้ปืนพวกนี้จะถือว่าแปลกและมักหาอะไหลได้ยาก
ต้องสั่งพิเศษเข้ามาเท่านั้น ส่วนร้านค้าและผู้นำเข้าก็จะเป็นผู้นำเข้าอิสระ
ผู้นำเข้ารายใหญ่ๆในสมัยนั้นก็มี ร้าน KPN. ของพี่ไก่ ร้านเฮียฉิ่ม
ส่วนผู้ค้ารายอื่นๆก็จะรับจากสองรายนี้ไปขายกันอีกทอดหนึ่ง
หรือไม่ก็มีสายนำเข้ามาเองแต่ก็ไม่มากนัก
การซื้อขายนั้นยังเป็นระบบต้องสั่งล่วงหน้าหรือต้องสั่งก่อนจึงจะได้ของ
ยังไม่มีโชว์รูมที่สามารถโชว์ของได้เนื่องจากข้อกฏหมายบางประการ
พอปืนBB.มีให้เล่นกันมากขึ้นสื่อต่างๆของกีฬา BB. ก็มีให้ติดตามมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน
ผู้เล่นเริ่มเห็นว่าปืนของตนสามารถตกแต่งให้สวยงามและแรงได้ จึงมีการคิดที่จะแต่งปืน
แต่บรรดาอะไหล่และช่างปืน BB.นั้นยังน้อยอยู่ ช่างบางรายก็เป็นรายเดียวกับผู้ค้า
และในยุคแรกๆนี้ใครซื้อปืนกับใครก็ควรให้ผู้ขายนั้นเป็นผู้แต่งหรือซ่อมปืนให้
ช่างบางรายจะไม่ซ่อมหรือแต่งปืนให้กับผู้ซื้อท่านอื่นที่ไม้ได้ซื้อกับตน
โดยมากจะซื้อปืนที่สนามและให้ช่างประจำสนามซ่อมหรือแต่งปืนให้ ส่วนการแต่งปืนนั้น
เนื่องจากอะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆจะไม่ครบและหายากในประเทศ
จนต้องมีการนำวัสดุที่มีในประเทศที่ไม่ได้มาตรฐานมาดัดแปลงใช้กับตัวปืนทำให้บางครั้งปืนBB.
เกิดชำรุดเสียหายอย่างไม่สมควร และช่างในยุคเริ่มต้นนี้ก็ยังไม่มีความรู้อะไรมากนัก
การแต่งปืนจึงเป็นการลองผิดลองถูกเสียมากกว่า
อายุเฉลี่ยของปืน BB.ที่แต่งแล้วจะสามารถอยู่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
จึงมีผู้เล่นบางส่วนกลัวที่จะแต่งจนเป็นนิสัยตกทอดมาถึงปัจจุบัน ก็เพราะความขาดความเข้าใจในระบบกลไกของตัวปืน
ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งบนตัวปืนนั้นถ้าไม่ใช้อุปกรณ์ที่ทางมารุอิผลิตขึ้นมาก็จะต้องใช้อุปกรณ์ทีใช้กับปืนจริงที่มีราคาสูง
เช่นถ้าใครติดกล้องเรดดดอดแล้วจะถือว่าผู้นั้นมีฐานะที่ดีมากเลยทีเดียว
กล้องสโคบก็มีราคาสูงอยู่มากแม้จะเริ่มมีของจีนเข้ามาขายบ้างแล้วแต่ก็ไมีไม่มากและยังหายากอยู่
มีเรื่องที่ถ้าคิดย้อนกลับไปแล้วอดนึกขำไม่ได้หลายเรื่องที่ถ้าเป็นตอนนี้เราคงไม่กระทำ
และบางเรื่องเป็นเรื่องที่ดูไม่ค่อยจะฉลาดเท่าไรที่ผู้เล่นBB.พึงกระทำ
เช่น ด้วยความที่กล้องเรดดอดนั้นหายากและมีราคาสูงมาก เราจึงเห็น MP-5 ที่เป็นปืนกลมือ
แต่กลับติดกล้องสโคบที่มีกำลังขยายสูงๆที่ควรจะติดปืนไรเฟิลมากกว่า
และการที่มีปืนแต่งเฟืองรูดทุกอาทิตย์ด้วยเหตุที่ใช้สปริงแข็งมากๆ(ไปเดินหาสปริงเอาเองย่านคลองถม)
แต่ไม่ใส่ห้วและแกนท้ายที่เป็นลูกปืนและช่างกับเจ้าของปืนก็ยอมรับว่า มันเป็นเรื่องปกติ
แล้วยังมีที่ใช้สปริงเบอร์แข็งๆแต่ไม่เปลี่ยนบูชิ่งให้มาเป็นบูชิ่งโลหะเสียก่อน
เฟืองจึงล้มและเสียหายไปทั้งระบบเกียร์บ๊อก รวมทั้งการที่มีเจ้าหน้าที่ประจำสนามหลายๆคนหัวใสคิดนำเอาลูกBB.
ที่ยิงแล้สในสนามมาร่อนเอาดินออกและนำมาหมุนเวียนขายให้กับลูกค้าที่มาเล่น
โดยมีราคาขายที่ถูกกว่าลูกBB.ใหม่มาก ซึ่งก็นั้นละครับปืนพังกันไปเป็นแถว
จนเจ้าของสนามต้องสั่งเลิกการกระทำเช่นนี้ไป ที่นึกขึ้นมาแล้วต้องอมยิ้มทุกครั้งก็คือการแต่งตัวของผู้เล่น
คือยุคนั้นเสื้อเกราะเสื้อเวสต์นั้นยังหาไม่ได้ง่ายนักการใส่เสื้อกั๊กของช่างภาพที่มีกระเป๋าเล็กๆ
ที่พอจะใส่แม็กฯสำรองได้นั้นเป็นที่ยอมรับและนิยมมาก
หรือไม่ก็มีผู้เล่นหัวใสที่ตัดชุดเกราะจากเสื่อน้ำมันหุ้มด้วยผ้าไนล่อนขึ้นมาใช้เอง
ในสมัยนี้พอเอารูปเก่าๆมาดูก็อดขำตัวเองและเพื่อนๆไม่ได้ว่าทำไปได้อย่างไรนะ
การเล่นในยุคแรกๆจะเป็นการเล่นที่ค่อนข้างหลบๆซ่อนๆ
กล่าวคือจะต้องเล่นกันเฉพาะในเวลากลางคืน และเล่นกันอยู่ในหมู่คนที่ไม่มากนัก
การที่จะเล่นเวลากลางวันจะน้อยมากแถบจะไม่มีเลย
แต่การเล่นในเวลาที่แสงธรรมชาติหมดลงไปแล้วก็นับเป็นการเล่นที่สนุก
และยากกว่าการเล่นกลางวันใยปัจุบันมากเลย
โดยผู้เล่นทุกคนจะเริ่มทยอยมาถึงสนามใยเวลาประมาณ 3 ทุ่ม
และจะเริ่มเล่นกันจริงๆได้ในเวลา 4-5 ทุ่ม จากนั้นก็เล่นกันไปยันตี 2 ตี 3 กันเลยทีเดียว
บางที่อาจถึงเช้าเลย และจะเป็นแค่คืนวันเสาร์เท่านั้นที่มีการเล่น BB. กันในสนาม
สำหรับในต่างจังหวัดก็จะมีบางที่เล่นกัน แต่จะเป็นการนัดเล่นกันเองในกลุมมากกว่าที่จะเป็นการเล่นที่มีสนามชัดเจน
การนัดกันเล่นเองในกลุ่มก็มีเช่นกันในกรุงเทพฯ
แต่จะเป็นการเล่นที่ค่อนข้าอันตรายและผิดกฏหมายอยู่ เช่นการนัดกันเล่นที่คลังสินค้าย่านพหลฯ
ที่เป็นการเล่นแบบนัดกันเองในสถานที่ที่ไม่ได้มีการจัดเตรียมบอกกล่าวกับเจ้าของสถานที่ให้แน่ชัดเป็นต้น
บ่อยครั้งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับผู้อื่นจนเป็นเรื่องราวเกิดขึ้น
จนเมื่อย่างเข้าปี พ.ศ. 2542 ที่วงการBB.ของไทยได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มจากการที่สนามได้เริ่มออกกฏที่แน่นอนว่าโดนนัดเดียวก็ต้องออก
และมีการใช้กติกา ยูเดด ในระยะใกล้ จากที่เมื่อก่อนจะต้อง
ยิงจนกว่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะเจ็บจนทนไม่ได้และยอมออกไป
ความต้องการที่จะเล่นนอกสนามก็ยังคงมีอยู่ แต่ได้มีการขอร้องและขอความร่วมมือกับผู้เล่นว่า
ถ้าไม่แน่นอนว่าจะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยแล้วก็อย่าออกไปเล่นเลย
ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออยู่มากเลยทีเดียว (ก็คนมันยังน้อยอยู่นี่)
แต่ความต้องการออกไปเล่นนอกสถานที่ก็ยังคงไม่จางหายไป เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องออกมามาก
ทางสนามจึงรวมตัวกับผู้ประกอบการด้านกีฬา BB. ที่ในตอนนั้นนิตยสารเกมกันของเราได้เปิดตัวแล้ว
และเราก็เป็นผู้จัดหลักๆในคณะผู้จัดงานด้วย โดยได้เริ่มจัดงานออนทัวร์ต่างๆขึ้นมาหลายงาน
จนได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้เล่น เพราะนั่นเป็นครั้งแรกๆที่ผู้เล่นในเมืองไทย
ได้ออกไปเล่นนอกสถานที่โดยไม่ต้องคำนึงถึงอันตรายและกลัวว่าจะมีใครเข้าใจผิดเกิดขึ้น
และบางงานก็ยังจัดในพื้นที่ของทหารและได้มีทหารจริงๆมาร่วมเล่นกับผู้เล่นอีกด้วย
ในช่วงนี้กีฬาBB.ในไทยเฟื่องฟูขึ้น แต่ก็จะสะดุดเล็กน้อยเหตุจากสภาวะเศษฐกิจตกต่ำ
ทำให้กิจกรรมต่างๆต้องผลอยชะงักไปด้วย ผู้เล่นที่มีฐานะดีบางคนต้องกลายเป็นบุคลล้มละลาย
เนื่องจากกิจการล้มเหลวและมีหนี้สินล้นพ้นจนไม่สามารถจะเล่นปืน BB.ได้ต่อไป
การขายปืนมือสองเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ปืนเก่าสภาพดีราคาถูกเริ่มหาซื้อได้ง่าย
แต่ปืนใหม่นั้นจะแพงขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ผู้เล่นจึงหันมาซื้อปืนมือสองที่ลงประกาศขายในเว็บไซด์ของมือสองต่างๆ
จนบางครั้งเกิดการหลอกลวงต้มตุ๋นกันจนเป็นเรื่องเป็นราวกันมาแล้ว
การซื้อขายปืนBB.มือสองนี้เองที่เป็นการทำให้เกิดผู้เล่นใหม่ๆที่เมื่อก่อนไม่มีทางได้เข้าถึงปืนBB.ใหม่ๆได้เลย
และในเวลาต่อมาที่เศษฐกิจเริ่มฟื้นตัวผู้เล่นที่เคยหยุดเล่นไปนั้นกลับมามีกำลังเงินที่จะกลับมาเล่นBB.ได้อีก
ทำให้จำนวนผู้เล่นมีมากขึ้นเป็นเท่าทวี อีกทั้งการฟื้นตัวคราวนี้นำเอาสื่อต่างๆ
ที่เป็นความรู้ด้านปืนBB.และการเติบโตของกีฬา BB. ในเอเชียก็สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
ผู้นำเข้าอิสระต่างๆเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทำให้บรรดาอุปกรณ์ อะไหล่
และเครื่องแต่งตัวต่างๆ นั้นได้ถูกนำเข้ามาในประเทศอย่างลนหลาม
เป็นเหตุให้ผู้เล่นมีความรู้มากขึ้นและสามารถใช้อะไหล่แท้ที่ได้มาครฐานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
จากการขยายตัวของกีฬาBB.ในเอเชียนี้เองทำให้เกิดผู้ผลิตใหม่ๆออกมาทำให้ตัวเลือกในการเลือกซื้อปืน BB. มีมากขึ้น
เกิดการเปรียบเทียบในด้ายคุณภาพและราคาที่จะจัดให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละบุคลได้
ด้านอะไหล่และชุดแต่งที่เมื่อก่อนเป็นแค่ความฝันก็เริ่มมีการสั่งเข้ามาขายกันอย่างหนาตา
จนค่อนข้างจะหาซื้อได้ง่าย ร้านรวงที่เป็นร้านค้ารายย่อยก็เริ่มเกิดขึ้น เราสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งของจากร้านใด
ถ้าในกรณีที่ร้านหนึ่งหาของไม่ได้ อีกร้านก็ยังมี
ในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมานี้วงการBB.ในไทยเติบโตมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและควบคุมได้ง่าย
ก็เพราะว่ากลุ่มผู้เล่นที่เป็นผู้มีฐานะดีเพราะของยังมีราคาสูงอยู่และจับตัวกันแน่นและส่วนมากจะรู้จักกัน
ใครจะทำอะไรก็จะรู้ถึงกันหมด การทีผู้มีฐานะไม่ดีหรือปานกลางจะเข้าถึงกีฬาBB.นี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
จนเมื่อ ปี พ.ศ. 2547-8 ขึ้นมานี้เองที่เริ่มมีกิจกรรมเกิดขึ้นมามากขึ้นกว่าแต่ก่อนที่เคยซบเซาลงไป
และในปลายปี พ.ศ. 2549 ถึงต้นปี 2550 มีกิจกรรมพิเศษๆอย่างที่ไม่เคยมีมาเกิดขึ้นติดๆเลย
เป็นการกระตุ้นให้มีผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นผู้เล่นในวงการมากขึ้น
ประกอบกับการที่มีสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาขายในท้องตลาดมากขึ้น
ทำให้กระแสนิยมในหมู่ผู้เล่นที่มีฐานะปานกลางมีมากขึ้นจนแซงสินค้าจากญี่ปุ่น และฮ่องกงที่มีราคาสูงกว่า
อีกทั้งผู้ที่มีรายได้น้อยซึ่งเป็นคนส่วนมากของประเทศ นั้นยังมีสิทธิ์เข้าถึงกีฬาBB.ด้วย
แต่สินค้าจากประเทศจีนนั้นยังด้อยคุณภาพกว่าสินค้าจากญี่ปุ่น ฮ่องกง และ ไต้หวัน
เนื่องจากประสบการณ์และความพิถีพิถันในการผลิตชิ้นงาน
จากการที่คนส่วนมากสามารถเข้าถึงและเล่นกีฬา BB.ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
จึงเกิดผู้เล่นหน้าใหม่ๆขึ้นอย่างมาก ทั้งในเมืองหลวงและตามต่างจังหวัด
จากการที่ผู้เล่นแทบจะทุกคนรู้จักกันในยุคก่อน กลายเป็นว่าในสนามกลับมีผู้เล่นมากมาย
ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนและเริ่มจะแยกตัวห่างเหินไม่คุยกันข้ามกลุ่มของตนเอง
คำว่าขอโทษเริ่มจางหายไป มารยาทที่ดีเริ่มลดลงไป ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ การโวยวาย ตะโกนด่าทอกัน
ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็เป็นธรรมดากับการที่มีคนหลากหลายที่มา กำพืด และ ชนชั้นเข้ามาอยู่รวมกัน
ที่คนต่างชนชั้นมักจะไม่ชอบกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเมื่อมาพบกันก็จะเกิดขเม่นกันเป็นธรรมดา
และด้วยการเกิดของผู้เล่นหน้าใหม่ๆอย่างทะลักทะลายนี้เอง
ทำให้ในปี พ.ศ. 2549 ปีเดียวมีสนามเกิดขึ้นอย่างมากมายเป็นดอกเห็ดทั่วประเทศ
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ดี
แต่ความน่ากลัวมันอยู่ที่ความพร้อมทางด้านระเบียบวินัยของวงการ BB.ในเมืองไทย
ที่ยังไม่สูงมากนักเพราะที่ผ่านมาเราใช้วิธีการควบคุมกันเอง
แบบเพื่อนขอร้องเพื่อนเพราะเมื่อก่อนจำนวนผู้เล่นยังน้อยอยู่การควบคุมวิธีนี้จึงสามารถกระทำได้
แต่ในปัจจุบันนี้มีการขยายตัวของวงการจนผู้เล่นมีมากมาย วิธีควบคุมแบบเก่าจึงใช้ไม้ได้ผลอีกต่อไป
ทำให้เกิดปัญหาและการแหกกฏเกิดขึ้นมากมาย และที่สำคัญคือ
ปัญหาเมื่อผู้เล่นไม่ยอมทำตามกฏของสนามและโดนตักเตือน
แต่ ถือตนว่าตนเองมีกำลังพอที่จะสร้างสนามขึ้นมาเองได้และได้สร้างสนามขึ้นมาเอง
แล้วจึงเปิดให้กลุ่มของตนเข้าเล่น โดยมีกฏกติกาของตนเองที่อยากจะตั้งก็ตั้งขึ้นมา
พอมีผู้เล่นที่อยู่ในแถบนั้นมาเล่นเพิ่มมากขึ้นกติกาแบบนี้จึงเป็ที่ยอมรับในกลุ่มที่เล่นสนามนี้
ไม่ว่าจะเป็นความเร็วปืนที่อันตรายกว่าที่อื่น กฏการโดนยิงที่บางสนามยังคงชอบแบบยิงจนกว่าจะออก
หรือ ต้องโดนเป็นชุดใหญ่ๆเท่านั้นจึงจะออก พอมีกิจกรรมที่จะต้องออกไปเล่นกับผู้เล่นที่มาจากหลายๆสนาม
ก็จะเกิดความขัดแย้งกันเรื่องกฏกติกากันโดยความเคยชินของแต่ละคน
นี่เป็นตัวอย่างของปัญหาของการเติบโตอย่างรวดเร็วของวงการBB.ของไทยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
จึงเกิดความคิดที่จะมีการจัดระเบียบของสนามและผู้เล่นให้ไปในแนวทางเดียวกัน(ก่อนภาครัฐจะมาจัดให้)
โดยได้มีการประชุมกันในผู้กระกอบการในวงการBB.ที่ว่าจะให้มีสมาคมผู้ประกอบการสนามกีฬา BB.และเพนท์บอล
ให้มีการรวมตัวกันตั้งกฏกติกาให้เป็นเหมือนกันหมดทุกสนาม
หากมีการลงมติแล้วผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะถูกขับออกจากสมาคมและกลายเป็นสนามเถื่อนไปในที่สุด
ส่วนผู้เล่นนั้นถ้าสนามมีกฏอย่างไรผูเล่นก็ต้องทำตามกฏอยู่แล้วโดยปริยาย
และอาจมีการใช้กฏในการจำกัดความเร็วของปืนBB.มาควบคุมผู้เล่น ให้เป็นที่เท่าเทียมและมีความปลอดภัยกับสังคม
การใช้มาตรการควบคุมแบบนี้แม้จะเป็นการสร้างความอึดอัดให้กับผู้เล่นในช่วงแรกๆแต่เมื่อนานๆไปแล้วก็จะรู้สึกชินไปเอง
และระเบียบวินัยของผู้เล่นก็จะประกฏขึ้นในวงการ BB. ของประเทศไทย


ขอขอบคุณบทความดีๆจาก นายพันกบครับ

นายพันกบ
BB.gun

ติดปลายปืน
3 เทคนิคง่ายๆที่ใช้กันบ่อยๆกับ Cloth Basic ครับ


- เทคนิคแรก เป็นการสร้างผ้าคลุมไว้อาลัยแชมป์สุดท้ายครับ


1.สร้างเส้น Splines - Rectangle มา 1 เส้น เพื่อใช้เป็นผืนผ้า
2.สร้างโลง เอ้ย ... ลังมา 1 อัน ขนาดพอเหมาะ


3.เลือกเส้น Rectangle แล้วเข้า modify เลือก Gament Maker


4.จากนั้นเข้า modify ซ้ำอีกครัง เลือก Cloth


5.ที่ cloth เข้า Object Propoties
6.คลิกที่ Add Object เพื่อเพิ่มวัตถุที่ต้องการเข้ามา
7.เลือกลังที่เราสร้างไว้แล้วเพิ่มเข้ามา
8.กด Add


9.เลือก Rectangle ให้เป็น Cloth
10.เลือกลังให้เป็น Collision Object เพิ่มค่า offset ประมาณ 10 และ Depth ประมาณ 2


11.กด Simulate Local ผ้าจะค่อยๆร่วงลงมาจนคลุมลังแบบสวยงาม

อันที่สอง

- เทคนิคที่สอง เป็นเทคนิคการนำผ้าขนหนูเปียกน้ำตาไปตากแดดครับ


12.สร้างเส้น Splines - Line มา 1 เส้น เพื่อให้เป็นเชือก
13.สร้าง plan มา 1 ชิ้น เพื่อใช้เป็นผ้า


14.เลือก plan แล้วเข้า modify เลือก Cloth
15.ติ๊กที่ Group


16.(16.1) เลือก vertex มุมซ้าย 1 จุด (16.2) เลือก vertex มุมขวา 1 จุด
17.กด Make Group - OK
18.กด drag


19.เลือก vertex มุมซ้าย 1 จุด และ เลือก vertex มุมขวา 1 จุด เหมือนข้อ 16
20.กด Make Group - OK
21.กด drag
22.เลื่อนลงมาที่ Group Parameters ติ๊กถูกที่ Soft
23.ติ๊กถูกที่ Use Soft Selection


24.ที่ cloth เข้า Object Propotie
25.เลือก plane ตั้งค่าเป็น Cloth
26.กด Simulate Local ผ้าจะค่อยๆย้อยลงมาแบบสวยงาม

สาม


-เทคนิคสุดท้าย เป็นการทำธงฉลองแชมป์ฤดูกาลใหม่ครับ


27.สร้างเส้น Splines - Line มา 1 เส้น เพื่อใช้เป็นเสาธง
28.สร้างเส้น Splines - Rectangle มา 1 เส้น เพื่อใช้เป็นผืนผ้า


29.เลือกเส้น Rectangle แล้วเข้า modify เลือก Gament Maker


30.เลือก Dummy จาก Helper
31.สร้าง Dummy 2 ชิ้นที่บริเวณมุมธงบนและล่าง


32.เลือก Dummy ทั้ง 2 ชิ้น แล้ว Group เข้าด้วยกัน


33.เลือกเส้น Rectangle แล้วเข้า modify เลือก Cloth
34.ติ๊กที่ Group


35.(35.1) เลือก vertex มุมบน 2 จุด (35.2) เลือก vertex มุมล่าง 2 จุด
36.กด Make Group - OK
37.กด Node
38.แล้วไปจิ้มต่อที่ Dummy


39.สร้างกระแสลมด้วย Wind จาก Space Warps
40.เพิ่มแรงลมตรง Strength ประมาณ 10


41.เข้าไปที่ Cloth Forces
42.นำ Wind เข้าไปใน Force in simulation - OK
43.เลื่อนลงไปที่ Simulation Parameters ติ๊กถูกที่ Self Collision


44.เข้าไปที่ Objecy Propoties เลือก Rectangle ติ๊กให้เป็น Cloth
45.กด Simulate ผ้าจะค่อยๆปลิวไปตามแรงลมแบบสวยงาม

จบแล้วจ้าาา


เชียร์คนไทยในต่างแดน
Cgsociety
Cg arena


 



Copyright © CG 2D&3D Art Design by Ongie Ongushi (Piyavach Arunotai) All rights reserved
www.ongushi.com

ongushi@hotmail.com